0
Your Cart

ลักษณะของเนื้อผ้าที่นำใช้ผลิต “เสื้อยืด” หรือ “เสื้อโปโล”

เนื้อผ้าที่นำใช้ผลิตเสื้อยืด เสื้อโปโล

ลักษณะของเนื้อผ้าที่นำใช้ผลิต “เสื้อยืด” หรือ “เสื้อโปโล” แบ่งได้เป็น 3 ประเภท คือ

เนื้อผ้าที่นำใช้ผลิตเสื้อยืด เสื้อโปโล

ประเภทที่ 1: Cotton 100% (ผ้าฝ้าย)

เนื้อผ้าที่ทำมาจากเส้นใยธรรมชาติ 100% หรือ ผ้าฝ้าย โดยการนำปุยฝ้ายเส้นเล็ก ๆ มาปั่นให้เป็นเส้นด้ายแล้วนำมาทอเป็นผ้าผืน วิธีการสังเกตุให้ดูตรงป้ายยี่ห้อ, ตรงคอเสื้อยืด หรือที่เย็บตรงตะเข็บข้างเอว ก็จะเห็นคำว่า Cotton 100% นั่นคือทำมาจากผ้าฝ้าย 100% นั่นเอง

คุณสมบัติของ Cotton 100%

คุณสมบัติเด่น ของ Cotton 100% คือ เนื้อผ้า นุ่ม เนียน สัมผัสละเอียด เพราะผลิตจากเส้นใยธรรมชาติ 100% ระบายความร้อนได้ดี (เนื่องจากเส้นใยมีรูพรุน) ซับน้ำได้ดี ไม่อมเหงื่อ, ผ้า Cotton 100% เหมาะในการสวมใส่แบบสบายสบาย นิยมทำเป็นเสื้อยืด หรือเสื้อโปโล ปจจุบันได้รับความนิยมสูง และสามารถต่อยอดเพิ่มคุณค่าได้โดยการสกรีนลาย หรือ ปักตราสัญญาลักษณ์ ต่างๆ ลงในเนื้อผ้าได้

ประเภทเส้นใยของ Cotton

  1. Cotton OE: เป็นผ้า Cotton เกรดต่ำสุด ลักษณะของผ้าจะมีความกระด้างมากว่าผ้า Cotton Semi และ ผ้า Cotton Comb
  2. Cotton Semi: เป็นผ้า Cotton เกรดปานกลาง ผ้าจะมีความเนียน ณ ระดับหนึ่ง ไม่กระด้าง ราคาไม่สูง และคุณภาพค่อนข้างใช้ได้
  3. Cotton Comb: เป็นผ้า Cotton เกรดดีที่สุด ลักษณะของผ้าจะมีความเนียนและเงามาก และราคาจะสูงกว่าผ้า Cotton ชนิดอื่นๆ
    รายละเอียดเพิ่มเติมของ ผ้าฝ้าย Cotton 100% อ่านเพิ่มเติมได้ที่ ผ้าฝ้าย “Cotton 100%” คืออะไร

ประเภทที่ 2: TC (Cotton ผสม Polyester)

เป็นเส้นใยผสมระหว่างเส้นใยธรรมชาติ (Cotton) และ เส้นใยสังเคราะห์ (Polyester) (ตัวย่อว่า TC ,CVC, CTC ขึ้นกับเปอร์เซ็นต์การผสมของเส้นด้าย) ผ้าชนิดนี้นิยมทอผ้าให้มีลักษณะเป็นรู (ทอแบบ Juti รูจะเป็นรูปรังผึ้ง) เนื่องจากกระบวนการผลิตผ้าใยสังเคราะห์นั้นเป็นผลพลอยได้มาจากการกลั่นน้ำมันในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ซึ่งสามารถควบคุมขั้นตอนการผลิตในเชิงปริมาณได้ ต่างกับผ้าเส้นใยธรรมชาติที่ต้องพึ่งผลผลิตจากการปลูกฝ้าย และดินน้ำลมฟ้าอากาศ รวมถึงแมลงที่เป็นศัตรูตัวฉกาจในการทำลายผลผลิต รวมถึงในเรื่องการขนส่ง และกระบวนการในการผลิตเส้นด้ายจากฝ้ายที่มีความละเอียดอ่อนและซับซ้อน จึงทำให้ต้นทุนของผ้า Cotton 100 % (เกรดดี ทอด้วยด้ายเส้นเล็ก) สูงกว่า

จุดเด่นของผ้าเนื้อผสม คือ เรื่องการควบคุมการยืด หด และย้วย จะทำได้ดีกว่า Cotton 100% ส่วนข้อด้อยที่ติดมาจากใยสังเคราะห์ คือ จะระบายอากาศได้ไม่ดีเท่า Cotton 100 % (ถึงแม้จะทอให้เส้นใยมีรูเล็ก ๆ เพื่อช่วยในการระบายอากาศแล้วก็ตาม) แต่ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ระดับปานกลาง

เส้นด้ายที่นิยมนำมาทอผ้า TC คือเบอร์ 20 และ 32 และ 40 เสื้อยืดที่ผลิตจากผ้าประเภทนี้ ราคาอยู่ในระดับปานกลาง โดยขึ้นกับเบอร์ผ้า และ % การผสมกันระหว่างเส้นใยธรรมชาติ (Cotton 100%) และเส้นใยสังเคราะห์ (Polyester)

ข้อแตกต่างระหว่างผ้า TC, CVC และ CTC

1.เปอร์เซ็นต์การผสมของผ้า TC ระหว่าง Polyester และ Cotton จะอยู่ที่อัตราส่วน 65% ต่อ 35%
2.เปอร์เซ็นต์การผสมของผ้า CVC จะอยู่ที่ Cotton 70-85% ต่อ Polyester 15-30%
3.เปอร์เซ็นต์การผสมของผ้า CTC จะใช้ cotton 70% และเส้นใยสังเคราะห์ 30%

ข้อดี-ข้อเสียของผ้า TC (Cotton ผสม Polyester)

1.ข้อดี: สวมใส่สบาย ระบายอากาศดีพอใช้ การดูดซับน้ำดีพอใช้
2.ข้อเสีย: ผ้ามีการย้วยบ้าง เมื่อผ่านการซัก เนื้อผ้าจะไม่เนียนสวยเท่า Cotton 100%

ประเภทเส้นใยของ TC (Cotton ผสม Polyester)

1.TC No.20 เส้นด้ายจะมีขนาดใหญ่สุด ใช้ทอได้ทั้งผ้าเรียบ และผ้าจูติ (ทอแบบ Juti รูจะเป็นรูปรังผึ้ง)
2.TC No.34 เส้นด้ายจะมีขนาดเล็กมาก ใช้ทอผ้าจูติ จึงต้องทอเป็นเส้นคู่

ประเภทที่ 3: TK (Polyester หรือใยสังเคราะห์)

เนื้อผ้าใยสังเคราะห์หรือโพลีเอสเตอร์ (ใช้ตัวย่อว่า TK) เป็นเส้นใยสังเคราะห์ผลิตจาก Polyester ผ้าใยสังเคราะห์ เนื้อผ้าจะมีลักษณะมันมากกว่า TC คุณสมบัติทั่วๆไป คือ ผ้าจะไม่ค่อยยับ อยู่ทรง ไม่ย้วย สีไม่ตก โดยวัตถุดิบที่นำมาทำผ้าเส้นใยสังเคราะห์ได้มาจากปิโตรเคมี เสื้อยืดที่ทำจากเนื้อผ้าประเภทนี้จะมีราคาถูกที่สุด

ข้อดี-ข้อเสียของผ้า TK (Polyester หรือใยสังเคราะห์)

1.ข้อดี คือ มีความคงสภาพอยู่ทรง ไม่หดไม่ย้วย เนื้อผ้าจะมีความมัน ราคาค่อนข้างถูก ทนทาน หาซื้อง่าย
2.ข้อเสีย คือ ผ้าจะเป็นขุยเมื่อผ่านการซัก เนื้อผ้ากระด้าง ไม่ดูดซับน้ำ ระบายอากาศไม่ดี และดูดซับเหงื่อได้น้อย

ประเภทเส้นใยของ TK (Polyester หรือใยสังเคราะห์)

1.TK No.20 เส้นด้ายจะมีขนาดใหญ่สุด ใช้ทอได้ทั้งผ้าเรียบ และผ้าจูติ (ทอแบบ Juti รูจะเป็นรูปรังผึ้ง)

วิธีการเลือกใช้ชนิดผ้าในการตัด “เสื้อยืด” หรือ “เสื้อโปโล”

  1. ผ้า Cotton 100% เหมาะกับผู้ที่ใช้งานในที่กลางแจ้ง โดนแดดบ่อยๆ เพราะระบายอากาศได้ดี ไม่ค่อยอมเหงื่อ ใส่สบายแต่ราคาอาจจะสูง และผ้าจะมีการหดตัวเมื่อผ่านการซัก 2-3 น้ำแรก
  2. ผ้า TC เหมาะกับคนที่เหงื่ออกง่ายแม้ทำงานในห้องแอร์ เพราะสามารถระบายอากาศได้ดีพอสมควร ข้อดี คือ อยู่ทรง ไม่หดหรือย้วย
  3. ผ้า TK เหมาะที่ใช้ในห้องแอร์ ไม่ค่อยโดนแดด